สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการพัฒนาสตาร์ทอัพให้เป็นนักรบทางเศรษฐกิจใหม่ โดยการเชื่อมโยงความร่วมมือทุกภาคส่วนในระบบนิเวศ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพที่สำคัญในภูมิภาค โดย สนช. ได้ริเริ่มโปรแกรมสนับสนุนนวัตกรรมฐานเทคโนโลยีเชิงลึก จึงมีเป้าหมายส่งเสริมให้เกิดสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกจำนวน 100 ราย ในระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2565 – 2567) ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบธุรกิจจากการใช้เทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน มีพื้นฐานจากการวิจัยระดับสูง และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงกระบวนการทางอุตสาหกรรมและบริษัทอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์-หุ่นยนต์-เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงและไอโอที หรือ สตาร์ทอัพด้านอารีเทค (ARI-Tech Startup) ประกอบด้วย 3 เทคโนโลยี ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence, AI) หุ่นยนต์ (Robotics) และ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนสำหรับสั่งการและควบคุมผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Immersive IoT) เป็นแทคโนโลยีขั้นสูงที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แก้ไขปัญหาด้วยรูปแบบใหม่ ที่มีความพร้อมและมีโอกาสเติบโตในตลาดโลก เนื่องจากสามารถประยุกต์นำไปใช้งานกับอุตสาหกรรมได้หลายด้าน เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นำมาใช้ในการวิเคราะห์อาการของผู้ป่วยในรูปแบบของการแพทย์ทางไกลได้อย่างแม่นยำ หุ่นยนต์บริการในร้านอาหารหรือใช้ทดแทนแรงงานคนในอุตสาหกรรมผลิตขนาดใหญ่ เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงนำมาใช้ในการท่องเที่ยว ที่ทำให้ได้สัมผัสโลกจำลองของสถานที่ต่างๆ เหมือนได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมจริง
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence, AI) ในปัจจุบันเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงจากการนำไปประยุกต์ใช้งานอย่างหลากหลาย ในกลุ่มธุรกิจ อุตสาหกรรม และการใช้ชีวิตประจำวันของกลุ่มคนต่างๆ เพื่อให้สตาร์ทอัพแก้โจทย์ต่างๆ เกิดการพัฒนาให้เกิดเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ด้วยการออกแบบและพัฒนาให้มีการทำงานเหมือนสมองมนุษย์ จากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) การประมวลผลจากคอมพิวเตอร์ (computer vision) การแปรผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) และอื่น ๆ
ตัวอย่างสตาร์ทอัพในต่างประเทศ
หุ่นยนต์ (Robotics) เป็นเทคโนโลยีเชิงลึกที่ผนวกรวมของวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และเทคโนโลยีที่ผลิตเครื่องจักรที่เรียกว่า หุ่นยนต์ เพื่อทำงานในรูปแบบอัตโนมัติ หรือทำงานแทนในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายและมีความเสี่ยงกับคน รวมไปถึงพัฒนาเพิ่มความอัจฉริยะให้มีประสาทสัมผัส สามารถเคลื่อนไหว และตัดสินวิเคราะห์ใจได้เอง
ตัวอย่างสตาร์ทอัพในต่างประเทศ
เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนสำหรับสั่งการและควบคุมผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Immersive IoT) การเชื่อมโยงทุกอย่างสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทำให้อุปกรณ์เชื่อมต่อและสั่งการได้ผ่านอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในทุกภาคส่วน ผสานเทคโนโลยีเชิงลึกร่วมกับการพัฒนาความเป็นอัจฉริยะ ที่ลดการใช้งานของโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ให้น้อยที่สุด และสามารถสร้างโซลูชันที่สามารถใช้งานคิดวิเคราะห์ด้วยระบบภายในเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงมากและใช้งานได้อย่างหลากหลายสถานการณ์ เช่น ระบบขนของอัตโนมัติ
ตัวอย่างสตาร์ทอัพในต่างประเทศ
